แต่งห้องอย่างมีสไตล์ หรูหราอย่างมีระดับ ด้วยการจับคู่สีเฉดเดียวกัน

การจับสีต่างเฉดมาเข้าคู่กันนั้น ส่งผลให้การตกแต่งภายในมีความสุนทรีย์ สบายตา เป็นที่น่าพึงพอใจมากขึ้น
ผนังในภาพทาด้วยสี 20143 Lively Red จากตระกูลสี Majestic True Beauty Matt ประตู และบัวทาด้วยสี 20144 Grounded Red จากตระกูลสี Majestic Supreme Finish


WITHIN THE FAMILY (สีโทนเดียวกัน)
วิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งคือการเลือกใช้เฉดสีที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย หรือสีในโทนเดียวกันนั่นเอง
โดยเริ่มจากการเลือกสีจากวงกลมสีธรรมชาติ NCS อย่างเช่น เฉดสี Y70R ซึ่งเป็นเฉดสีท้ายๆ ในวงกลม จากนั้นจึงเลือกเฉดที่ต่างกันเล็กน้อย โดยดูว่าสีที่เลือกนั้นต่างกันที่ความดำมืด และความอิ่มตัวของสีหรือความเข้มของสีนั่นเอง สีที่เลือกนั้นจะอ่อน หรือเข้มกว่าเฉดสี Y70R ก็ได้ไม่ว่ากัน ขอแค่มีสี Y70R ยืนพื้น
การเลือกสีเช่นนี้จะได้คู่สีที่ลุ่มลึก เข้ากันได้ง่าย เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับการตกแต่งภายในสไตล์เรียบหรู ดูคุมโทน

ตัวอย่างการใช้สี Majestic 2024 Senses (S3010- Y50R)และสี Majestic 20120 Organic Red (4914- Y55R)

เมื่อจับคู่สีที่แทบจะดูเหมือนสีเฉดเดียวกันเข้าไว้ด้วยกัน บอกได้เลยว่าจะเป็นการเพิ่มความสุนทรีย์น่ามองให้ห้องของคุณมากขึ้น
สี 1024 Timeless สี 1973 Objective สี 1032 Iron Grey สี 1462 Evening Sky และสี 1434 Elegant เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้หลายเฉดสีจากโทนสีเดียวกัน


เราสามารถใช้สีที่มีโทนเดียวกัน ในการแบ่งสีห้องออกเป็นสองส่วนได้ โดยแนวเส้นที่แบ่งห้องนั้นได้ทาสีเทาเข้ม 1434 Elegant ด้านบนทาสี 11174 Curious Mind ส่วนด้านล่างทาสี 1462 Evening Sky ซึ่งจะมีสีที่อ่อนกว่าเล็กน้อย และออกเทาอมเหลือง
รับชมวิดีโอแนะนำเคล็ดลับการเลือกสีโทนเดียวกันแต่เฉดสีที่ต่างกันได้ที่นี่